คนรักแมว

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สมุนไพรรักษาแมวเป็นนิ่ว และผิวหนังเป็นเชื้อรา

แมวที่บ้านเป็นนิ่วอาการฉี่ทีละนิด เบื่ออาหาร ฉี่บ่อย ฉี่นานมาก ตัวเกร็งมากเวลาฉี่จะโกงตัวแทบจะเป็นรูปตัววี เลยพาไปหาคุณหมอ ให้ยามา 2 ตัว ยาสลายนิ่ว ยาแก้อักเสบ และฉีดยาให้ 2 เข็ม ยาทานได้ 1 อาทิตย์ ถ้าไม่ดีขึ้น ต้องสวนท่อปัสสาวะ อาจจะต้องขึ้นเขียง ผ่าตัด ผลสุดท้าย ต้องขึ้นเขียงก่อนขึ้นเขียงก็ถามคุณหมอว่า ผ่าแล้วหายสนิทเลยใช่ไหม คุณหมอบอกว่ามีสิทธิที่จะกลับมาเป็นอีก แล้วทำไงล่ะ ไม่อยากให้ลูกทรมานอีก เลยเข้าไปใน google เขาให้ใช้วิธีโดยเอา สารส้มทุบให้ละเอียดผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อน แช่ให้ละลาย ดูดน้ำที่ได้จากการผสมมาให้ทานที่บ้านให้ทานประมาณ 5 ซีซี วันล่ะ 3-4 เวลา ใช้เวลาแค่ 2-3 วันเห็นผลชัดเจน สังเกตดูว่าฉี่ได้ดีขึ้น ฉี่เยอะขึ้น ทานข้าวได้ ร่าเริงสดใสขึ้นเยอะมาก ทานได้ประมาณ 1 อาทิตย์ติดต่อกัน ผลสรุป หายสนิทเลยค่ะ แต่ก็ทานติดต่อกันอีก 1 อาิทิตย์เพื่อความสบายใจค่ะ ทุกวันนี้ปกติดีแล้วไม่ต้องขึ้นเขียงแล้วค่ะ
มาเข้าเรื่องเชื้อรากันค่ะ ใครที่รู้จัก ฝักส้มป่อย ไหมค่ะ มีรูปให้ดู หาซื้อได้จากร้านขายยาจีนค่ะ กองที่เห็นซื้อมา 10 บาทเท่านั้นไม่แพงอย่างที่คิด นำไปแช่น้ำ พอประมาณ แช่ประมาณสัก 1-2 ชั่วโมง แล้วนำแมวที่บ้านอาบน้ำให้สะอาด ถ้าเป็นมากตัดขนได้เลยค่ะ (หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ชะโลมน้ำฝักส้มป่อยลงบนตัวแมวเลยได้ค่ะ แมวเลียได้ไม่เป็นอันตรายค่ะ ขยันทาหน่อยน่ะค่ะ ) แต่ถ้าไม่เยอะก็ใช้น้ำที่ละลายจาก ฝักส้มป่อย มาทาตรงบริเวณที่เป็นเชื้อรา ตัวฝักส้มป่อยจะทั้งรักษาและบำรุงขนด้วย ปกติแมวที่ไม่เป็นไรก็นำมาเช็ดตัวก็ได้ค่ะ ขนจะสวยเงางามด้วยค่ะ ลองวิธีนี้ดูน่ะค่ะ อย่างน้อย 1 ในนั้นก็คือดิฉันที่ได้ลองมาแล้ว และก็เห็นผลได้ดีด้วยค่ะ เอาใจช่วยกับมี้ๆทุกคนน่ะค่ะ
เครดิตผู้เขียน ด้านล่างค่ะ
noo
โดย : POTTER  (noo)  
วันที่ : 20/11/2555
เวลา : 7:27:37

ยาสามัญประจำบ้านแมว

ยาสามัญประจำบ้านแมว
credit :  โครงการรักษ์แมว

ยาแก้แพ้ chlorpheniramine maleate
มีทั้งเม็ดและน้ำ กระปุกละ 15 บาทเม็ด ถ้าเป็นขวดละ 20 บาท
ยาน้ำกินยากหน่อยมันเหนียวและขม ใช้เวลาจามมีน้ำมูก พวกแพ้ อากาศ ลดอาการคันตามผิวหนังให้กินคู่กับแมวเด็กกินครึ่งเม็ด แมวโตกิน1เม็ด เช้าเย็น
Flemex
ยาแก้ไอละลายเสมหะ(ของคนเนี่ยล่ะ) ขวดละไม่เกิน 50 บาท ให้กินคู่กับยาแก้แพ้เวลาแมวเป็นหวัด เพราะยาแก้แพ้จะทำให้น้ำมูกแห้งไปลงทีคอแทนแมวจะไอแล้วจะทำให้ตาเจ็บขึ้นมา ได้(สังเกตุง่ายๆถ้าแมวมีอาการขี้ตาแฉะเค้าป่วยแล้วล่ะ) แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น
Toflex 250 dry
เป็นยาฆ่าเชื้อเยื่อบุผิวหนัง ขวดละไม่เกิน80บาท เป็นยาน้ำผสมน้ำแล้วใช้ได้ 7 วัน ต้องทิ้งเลย ส่วนมากหมอจะจ่ายให้ในการรักษาคู่กับ ไรหู เชื้อรา เยื่อบุผิวหนังต่างๆ แผลในช่องปาก ส่วนกรณีคันผิวหนังตามผิวหนังหมอจะจ่ายคู่กับแก้แพ้ chlorpheniramine maleate แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น
Cavumox156ml
ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อ ติดเชื้อต่างๆ ขวดละไม่เกิน 80 บาท แนะนำให้ซื้อของบ.สยามฟามาซูติคอลจะถูกกว่ายี่ห้ออื่น เป็นยาน้ำผสมน้ำแล้วใช้ได้ 7 วัน ต้องทิ้งเลย เวลาที่ตาอักเสบขี้ตาเขียว รวมถึงมีอาการบวมที่ตาด้วย หรือมีน้ำมูกเขียวกินคู่กับแก้แพ้ chlorpheniramine maleate ท้องเสียรุนแรง แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น
Disento
เป็นยาแก้ท้องเสียรักษาเชื้อบิด เป็นยาน้ำ ขวดประมาณ 20 บาท แก้ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำมีมูกเลือดกินต่อเนื่อง7วันเพื่อฆ่าเชื้อบิดให้หมด ครวกินคู่กับ Cavumox เพื่อคุมเชื้อด้วย กินเช้าเย็น ท่าหนักก็เสริม คาวูม็อกซ์ซักครั้ง แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น
poly-oph
ยาหยดตา ฝาสีฟ้า ขวดละ 22-35 บาท รักษาอาการตาเจ็บ ตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยไม่แรงมากแมวเด็กใช้ได้ หยดวันละสามถึงสี่รอบ
terramycin
ขี้ผึ้งป้ายตา หลอดละ 20 บาท ใช้ป้ายทุกเช้าเย็น ถ้าหากมีอาการอักเสบมาก กินยาCavumoxช่วยวันละครั้ง (ทำความสะอาดตาก่อนป้ายขี้ผึ้งด้วยนะ)
potal
น้ำยาล้างตา ขวดละไม่เกิน50บาทใช้เช็ดตาทุกเช้าสำหรับแมวที่มีน้ำตาเยอะ ค่อนข้างดีกับแมวไม่ระคายเคลือง
desoryl
ยารักษาไรหู ขวดประมาณ 200 บาท(หมอคิดตั้ง 350) หาชื้อได้ตามร้านแพ็ทช้อป หยดทุกวันติดต่อกันสองอาทิตย์ เช้าเย็น ก่อนหยดควรทำความสะอาดหูให้เรียบร้อยก่อน
sporal 100
ยาเชื้อรา สำหรับคน ถ้าติดจากแมว กินเช้าเย็นเลย เวลาเป็นจะคันมาก(เพราะเคยเป็นมาแล้ว) ต้องกินยาสองอาทิตย์เลย ทาคันมากใช้คาเนสเทน ช่วยบรรเทาอาการตคัน ทาบ่อยๆ สำคัญมากเพราะทายาเดียวไม่หาย
ปล.ยาทั้งหมดนี้เป็นยาที่หมอจัดให้แมวที่บ้านที่เคยป่วยมาทั้งนั้นจ๊ะ ซื้อติดบ้านไว้ประหยัดกว่าไปหาหมอกว่า แต่ท่ารักษาเอง3-4 วันอาการไม่ดีขึ้นแนะนำพาให้หาหมอตรวจหาต้นเหตุดีกว่านะค่ะ
Tofedine 6 มก. (1 เม็ด สำหรับแมว/สุนัข ที่มีน้ำหนัก 1.5 กก.) (ยาสัตว์)
เป็นยาบรรเทาปวด ลดไข้สำหรับลูกสุนัขและแมวโดยเฉพาะ WM จะใช้ในเวลาที่แมวที่บ้านมีอาการตัวร้อนจัด แต่หากทานแล้วอาการตัวร้อนยังไม่ยอมลด หรืออาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบพาไปหาหมอเร็วที่สุด ยานี้ค่อนข้างอันตราย ควรอ่านข้อบ่งใช้ก่อนใช้ยา และไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 3 วัน
Rowatinex (ยาคน)
เป็นยาลดการหดเกร็งของท่อทางเดินปัสสาวะ และอาการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับภาวะการเกิดนิ่ว และยังช่วยละลายและขับก้อนนิ่วในไต กินครั้งละ 1 เม็ด เช้า และเย็น WM จะใช้ในกรณีที่แมวมีอาการฉี่ไม่ค่อยออก ฉี่กระปริบประปรอย หรือมีอาการเบ่งฉี่ แต่หากทานแล้วภายใน 1-2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ก็ต้องรีบพาหาหมอ
Baytrill 50 mg (ยาสัตว์)
เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวยาที่ออกฤทธิ์คือ Enrofloxacin คุณหมอมักจะจ่ายยาตัวนี้มาให้ในกรณีที่มีการติดเชื้อ เช่นฝี หนอง ท้องเสีย หรือมีการอักเสบติดเชื้อ WM จึงมักจะมียาตัวนี้ติดบ้านอยู่เป็นประจำ กินครั้งละ ครึ่งเม็ด วันละครั้ง ( 1 เม็ด / นน. 10 กก.)
Hepalac (ยาคน)
สำหรับน้องแมวที่มีอาการถ่ายไม่ออก ท้องผูก หรือถ่ายลำบาก เพราะอุจจาระแข็ง เป็นยาที่ช่วยทำให้อุจจาระนิ่มตัว ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น ในกรณีที่ไม่ท้องผูกมาก กินครั้งละ 3 ซีซี วันละ 1 ครั้ง หากมีอาการท้องผูกมาก กินครั้งละ 4-5 ซีซี วันละ 1 ครั้ง หรือถ้ามีอาการท้องผูกแบบเรื้อรัง แนะนำให้เปลี่ยนอาหารเป็นอาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวท้องผูก หาซื้อได้ที่ รพส.
Trinolone (ไตรโนโลน ชนิดป้ายปาก) (ยาคน)
เป็นยาป้ายปาก เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ อาการปวด บนเยื่อบุภายในปาก หรือบนลิ้น ที่เกิดจากสาเหตุ เช่นถูกความร้อน ฟันขบ ถูกสารเคมี อาหารไม่ย่อย แต่ห้ามใช้กับแผลภายในปากที่เกิดจากเชื้อไวรัส น้องแมวที่มีอายุมาก หรือน้องแมวที่ป่วย มักจะมีอาการปากเป็นแผล หรือลิ้นเป็นแผล บีบยาใส่ค็อตต้อนบัด หรือนิ้วมือ ป้ายเข้าไปในช่องปากหรือลิ้น น้องเหมียวอาจจะมีอาการน้ำลายฟูมปาก ไม่ต้องตกใจน่ะค่ะ ไม่ได้มีอันตราย เพียงแค่เขาไม่ชอบกลิ่น และรสชาด (เมนทอลนิดๆเย็นหน่อยๆ)
วิตามินC (ขนาด 100 mg)
สามารถป้อนให้กับน้องแมวเด็ก/โต ที่มีอาการหวัด หรือ น้องแมวที่ไม่ค่อยแข็งแรง และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นหวัด ให้กินวันละ 1-2 เม็ด
วิตามินเด็กชนิดน้ำ ที่มีส่วนประกอบของ L-Lysine
Lysine มีคุณสมบัติในการช่วยลดความรุนแรงของไข้หวัดแมว และช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสหวัดแมว แมวควรได้รับ Lysine ประมาณ 400 mg/วัน (ปริมาณในการป้อนให้คำนวณจากปริมาณของ Lysine ที่ผสมอยู่ในวิตามินของแต่ละยี่ห้อ)

การใช้ยาทุกชนิดต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ หากใช้ยาแล้วไม่ได้ผลภายใน 1-2 วัน ควรรีบ
พาน้องเหมียวของท่านไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
ที่มา โครงการรักษ์แมว

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

10 วฺิธีที่เจ้าเหมียวบอกรัก....เมี๊ยว

 10 วิธีการบอกรักของแมวเหมียว..เมี๊ยว 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห ทุกคนอาจจะคิดว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักอิสระมาก ไม่สนใจเจ้าของ แต่ทุกคนรู้ไหมจริงๆแล้วมันเป็นสัตว์ที่ขี้อ้อนและรักเจ้าของมาก เรามาดู 10 วิธีการบอกรักของเจ้าแมวน้อยกันค่ะ 10 วิธีการบอกรักของแมวเห

1. การเอาหัวมาชน(Bunting) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การเอาหัวมาชนคือการแสดงความรักอย่างหนึ่งของเจ้าแมวเหมียวเพราะบริเวณใบ หน้าของแมวจะมีต่อมกลิ่น(scent gland)และจะปล่อยฟีโรโมน(Pheromone)มาเพื่อแสดงความเป็นมิตร ความรัก หรือความคุ้นเคยนั่นเอง

2.เอาแก้มมาถูไถ (Cheek rubbing) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การเอาแก้มมาถูไถสิ่งของหรือตัวเรานั้น แสดงว่าเจ้าแมวน้อยเขารู้สึกผ่อนคลายสบายใจและคุ้นเคยกับเราหรือสิ่งของนั้นๆ

3.การนวด (kneading)  10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   เป็นพฤติกรรมที่มาจากวัยเด็กตอนที่ยังดูดนมแม่ ในตอนที่น้องแมวยังเด็กนั้น เวลาดูดนมแม่จะเอาเท้าหน้าทั้งสองนวดๆกดๆบริเวณเต้านมเพื่อให้น้ำนมไหล แมวที่โตแล้วหลายตัวก็ยังคงแสดงพฤติกรรมนี้อยู่เมื่อเจอของนุ่มๆนิ่มๆ หรือเมื่อรู้สึกพึงพอใจ แมวบ้านไหนชอบนวดเจ้าของนอกจากเราจะหายเมื่อยแล้ว นั่นก็เป็นอีกพฤติกรรมนึงของเจ้าแมวน้อยที่แสดงความรักกับเราอีกด้วยค่ะ

4.ส่งเสียงกรน (purring) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การส่งเสียงกรนแสดงว่าเจ้าแมวน้อยกำลังนอนสบายและผ่อนคลายเวลาอยู่กับเรา แต่บางครั้งการส่งเสียงกรนก็สามารถพบเห็นได้ในแมวที่ป่วยหรือบาดเจ็บค่ะ
5.เลียตัวให้ (allogrooming) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การเลียตัวเป็นพฤติกรรมที่เราสังเกตเห็นได้บ่อยเวลาที่เจ้าแมวน้อยอยู่ด้วย กันหลายๆตัว เพราะนั่นคือการสร้างกลิ่นให้พวกเดียวกันและคลายความเครียดให้แก่กัน และสำหรับใครที่เจ้าแมวเหมียวมาเลียหน้าหรือเลียตัวเราก็อย่าไปดุเขานะคะ เพราะนั่นคือการแสดงความรักของเขาอีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะจั๊กจี๋น่าดู อิอิ

6.กระพริบตาใส่ (slow eye blink) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   คุณเจ้าของแมวเหมียวทั้งหลาย คุณทราบไหมว่าจริงๆแล้วแมวน้อยของเราเป็นสัตว์ที่ขี้อายที่สุด แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าแมวเหมียวกระพริบตาใส่คุณให้คุณรีบกระพริบตาตอบและยิ้ม ให้เพราะนั่นคือการแสดงความรักและเรียงร้องความสนใจจากเจ้าแมวนั่นเอง

7.นอนเหยียดตัว 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นเจ้าแมวน้อยของเรานอนเหยียดตัวยืดแข้งยืดขาใส่เรา แสดงว่าเขากำลังรู้สึกผ่อนคลายสบายใจและปลอดภัยเวลาที่ได้อยู่กับเรา ยิ่งถ้านอนหงายท้องใส่แสดงว่ากำลังสบายใจและปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะว่าช่วงท้องเป็นส่วนที่ถือว่าเปราะบางมากที่สุดของน้องแมว เพราะแมวส่วนมากไม่ชอบให้ใครมาจับท้องจับพุงอันที่จริงท่านอนหงายนี้บอก สถานการณ์ว่าพร้อมจะสู้นะคะต้องสังเกตดีๆว่าท่านอนหงายของเขาต้องการจะเล่น กับเราหรือว่าเขากำลังหงุดหงิดและพร้อมจะสู้กับเรากันแน่ค่ะ และคุณจะสังเกตได้เมื่อเจ้าแมวน้อยรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยรอบๆตัว เขาจะนั่งห่อตัวเอาเท้าทั้ง 4 เก็บไว้ใต้ลำตัวรวบหางแนบชิดติดกับตัว 

 8.ยกหางสูง (Upright tail flicks) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การยกหางสูงของเจ้าแมวน้อยเป็นการแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย เวลาที่เจ้าแมวยกหางเหยียดสูงนั่นแปลว่าเค้ากำลังมีความสุข แมวบางตัวจะแกว่งหางเล็กน้อยด้วยค่ะ

9.มาอยู่ใกล้ๆ (physical contact) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห
   การที่เจ้าแมวน้อยมานั่งบนตัก นอนบนตัก นอนบนหมอน นอนบนอก มานั่งใกล้ๆ และที่หลายๆคนต้องเจออย่างแน่นอน นั่นก็คือการมานั่งทับโน๊ตบุ๊คและคีย์บอร์ดของเรา นั่นคือการแสดงความรักอีกรูปแบบหนึ่งของเจ้าแมวน้อยนั่นเองค่ะ ฮ่าๆๆ

10.ส่งเสียงร้อง (vocalization) 10 วิธีการบอกรักของแมวเห
10 วิธีการบอกรักของแมวเห

   การส่งเสียงร้องของเจ้าแมวน้อยมีหลายรูปแบบค่ะ แต่เสียงร้องที่แสดงความรักกับเราคือเสียงที่ร้องแบบเล็กๆเบาๆสั้นๆ เช่น มิ๊ว มิ๊ว เหมือนเป็นการทักทายของเจ้าแมวนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าเป็นเสียงร้องยาวๆ ดังๆ อาจจะเป็นเพราะหิวนะคะ หลายคนอาจจะได้ยินเสียงนี้บ่อยๆ แยกให้ออกน๊าาา เสียงไหนที่แมวน้อยของเรากำลังแสดงความรักและเสียงไหนที่เขาร้องเพราะหิว คนส่วนมากจะได้ยินเสียงร้องเฉพาะเวลาหิวใช่ไหมละคะ หุหุ

17 เรื่องลับ ๆ ของแมว



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Reader's Digest

         แม้แมวจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่น่าค้นหาและมีสิ่งที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมาก มาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพพฤติกรรม หรืออารมณ์ของแมว และเป็นเพราะแมวไม่อาจสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับคนได้ ดังนั้น Reader's Digest จึงนำเรื่องลับ ๆ ของแมว ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาเปิดเผยให้ทราบกัน มีอะไรบ้าง ทาสแมวลองไปอ่านเลยจ้า

 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

1. แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

         เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟ ดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเอง และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่น ดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย


 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว


         อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน


          เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้าย ๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

          ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่ คนกำลังฝันนั่นเอง



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ
          การโดนลงโทษไม่มีผลใด ๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

           เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

7. ไม่มีใครรู้ว่า เสียงคราง เกิดจากอะไร


          กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า



17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ


          ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด
          หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว


         ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว



17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

         แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

        ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้ แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา
         เพราะแมวไม่ชอบการสบตา และจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคาม โดยหากแมวหันไปสบตากับอะไรบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

         เนื้อสัตว์สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง ยิ่งขึ้น



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

15. ทนต่อความร้อนได้ดี


         สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่า บรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่น เอง



  17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

         โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น



 17 เรื่องลับ ๆ ของเหล่าเหมียวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

         ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง

         ก็ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความลับของแมวทั้ง 17 ข้อที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและเลี้ยงแมวอย่างถูกวิธีมากขึ้นนะคะ